‘เกมจับคู่’ ของเล่นเสริมพัฒนาการยอดนิยม

แน่นอนว่าการตัดสินใจซื้อของเล่นให้ลูก ต้องดู ต้องใช้เวลาเลือกมากเป็นพิเศษ ยิ่งเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้หลายครอบครัวชั่งใจกันอยู่นาน ไม่ว่าด้วยประเภทของเล่นที่มีให้เลือกมากมาย วัสดุที่ใช้ผลิตของเล่นที่ต้องคิดอีกว่าปลอดภัยต่อเด็ก หรือปลอดสารเคมีด้วยไหม รวมถึงการเล่นที่เสริมพัฒนาการให้กับเด็กได้หรือเปล่านั่นเอง

วันนี้หากผู้ปกครองหรือครอบครัวไหนกำลังมองหาของเล่นสักชิ้น ลองมองหาของเล่นเสริมพัฒนาการประเภทเกมจับคู่ดู ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับการเลือกซื้อของเล่นให้กับเด็ก ๆ ได้ เพราะของเล่นประเภทนี้เสริมพัฒนาการได้หลายแบบ เหมาะกับเด็กที่อายุตั้งแต่ 12 เดือน จนถึง 3 ปีขึ้นไป เป็นของเล่นที่เรียกว่า ถ้าพร้อมแล้วมาเลือกของเล่นไปพร้อม ๆ กันเลย

เสริมทักษะด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ

เด็กในช่วงวัยนี้กำลังเข้าสู่ในช่วงวัยหัดเดิน เด็กจะรู้จักสังเกตมีพัฒนาการ ต่อการเรียนรู้ที่มากขึ้นเป็นพิเศษ พูดสื่อสารได้มากกว่า 1-2 คำ นิ้วมือแข็งแรง ควบคุมนิ้วมือในการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จดจำและเลียนแบบพฤติกรรมได้ รวมถึงเริ่มหัดเดินด้วยก้าวขาเล็ก ๆ สั้น ๆ ด้วย ของเล่นเซตนี้จึงออกแบบเพื่อช่วยเสริมพัฒนาการอย่างสมวัยดังนี้

• การประสานสัมพันธ์ (Coordination)

ช่วยให้การใช้มือและสายตาสอดประสานกันได้ดีขึ้น รวมถึงการจับคู่ชิ้นส่วนเรขาคณิตให้ตรงกัน ก็ช่วยฝึกทักษะด้านนี้ให้เด็ก ๆ ได้ด้วย

• การมองเห็น (Visual)

เด็ก ๆ ได้ฝึกการมองเห็นขณะเล่นของเล่นชิ้นนี้ด้วยการหยิบจับชิ้นงานรูปร่างต่าง ๆ กันฝึกการสังเกตในการจับคู่ของเล่นได้ลงล็อก รวมถึงการดึงดูดด้วยสีสันต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการเล่นไปในตัว

• การแก้ปัญหา (Problem Solving)

การที่รูปทรงเรขาคณิตแตกต่างกันจะเพิ่มความท้าทายในการแก้ปัญหาของเด็ก เด็กได้เรียนรู้จากการเล่น ได้ฝึกแก้ปัญหาในการจับคู่ของเล่นให้ลงล็อก

• การคิดอย่างมีเหตุมีผล (Logical Thinking)

เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การคิดอย่างมีเหตุผลไปพร้อม ๆ กับการเล่นของเล่น และยังได้เรียนรู้การจับคู่อย่างมีเหตุผลในขณะเล่นเพราะแต่ละรูปทรงหากจับคู่ตรงกันจะวางลงล็อกกันอย่างพอดีนั่นเอง

• พัฒนาการด้านคณิตศาสตร์ (Mathematical)

การเล่นจับคู่จะช่วยฝึกทักษะพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ที่สำคัญผ่านรูปทรงเรขาคณิต อย่างการจัดหมวดหมู่ รูปทรงต่าง ๆ การจำแนกประเภท การเปรียบเทียบขนาด การจัดลำดับ เรียนรู้รูปทรง พื้นที่ การนับ และการรู้จักตัวเลข ผ่านการเล่น เด็กจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงนั่นเอง

• พัฒนาการด้านความจดจ่อ (Concentration)

เด็ก ๆ ได้จดจ่อกับการเล่นเพื่อฝึกสมาธิจดจ่อได้จากการจับคู่ของเล่นและรูปเรขาคณิตต่าง ๆ ซึ่งการเล่นเหล่านี้ช่วยให้เด็ก ๆ สามารถควบคุมตัวเองได้ดี พร้อมเรียนรู้และตั้งใจฟังคุณครูเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยอนุบาลนั่นเอง

เสริมทักษะด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ

ไม่ว่าจะเลือกเล่นแบบไหน ของเล่นเสริมพัฒนาการเซตนี้จะช่วยเสริมพัฒนาที่สมวัยของเด็กอายุตั้งแต่ 18 เดือน ขึ้นไปได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กวัยนี้จะเริ่มมีพัฒนาการอย่างการเดินและใช้คำศัพท์พื้นฐานได้แล้ว ซึ่งเด็กวัยนี้มักชอบสำรวจ เริ่มเป็นอิสระ ชอบเล่นบทบาทสมมุติ เป็นต้น ซึ่งของเล่นเซตนี้จะช่วยเสริมพัฒนาการต่าง ๆ เหล่านี้ได้ดังนี้

• การมองเห็น (Visual)

เด็ก ๆ จะได้ฝึกการมองเห็น ผ่านการเล่น ฝึกการสังเกตความแตกต่างทั้งลวดลาย สี และชนิดของสัตว์ เพื่อให้จับคู่ได้ตรงกับชนิดของสัตว์ รวมถึงได้เรียนรู้ส่าสัตว์แต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร

• พัฒนาการด้านคณิตศาสตร์ (Mathematical)

นอกจากรูปทรงแล้วได้เรียนรู้จากการนับเลข เรียงลำดับ หรือการจับคู่แล้ว การเรียงซ้อนเพื่อวัดความสูง ก็เป็นการเล่นที่ส่งเสริมทักษะคณิตศาสตร์ได้ด้วย

• การจดจำ (Memory)

แน่นอนว่าการที่ในเซตของเล่นมีรูปสัตว์หลายชนิด ทำให้เด็กเรียนรู้หรือจดจำใบหน้าของสัตว์ที่หลากหลาย สร้างการจดจำได้มากขึ้น เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับสัตว์อาร์กติกว่าหน้าตาเป็นอย่างไรนั่นเอง

• การจินตนาการ (Imagination)

ให้เด็ก ๆ ฝึกจินตนาการการเล่นไม่ว่าจะเป็นสลับส่วนหัวและส่วนตัวของสัตว์ การนำไปประกอบการเล่านิทานและการเล่าเรื่อง รวมถึงการนำไปเล่นบทบาทสมมุติตามจินตนาการของเด็ก ๆ

• การประสานสัมพันธ์ (Coordination)

เด็ก ๆ ได้ฝึกการใช้มือและสายตาร่วมกับการเล่น รวมถึงการใช้นิ้วมือและฝ่ามือในการจับของเล่นแต่ละชิ้น รวมถึงการที่มีแถบตีนตุ๊กแกที่ติดไว้กับส่วนหัวและส่วนตัวก็ทำให้มีการใช้กล้ามเนื้อมือมากขึ้นด้วย

• ภาษาและการสื่อสาร (Language & Communication)

แน่นอนว่าในระหว่างการเล่น เด็ก ๆ ย่อมสื่อสารพูดคุยกับตัวเองหรือครอบครัว หรือแม้กระทั่งสวมบทบาทในการเล่นก็ทำให้เกิดกระตุ้นการสื่อสารและการใช้ภาษาในขณะเล่นได้ด้วย

เสริมทักษะด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ

ของเล่นชิ้นนี้จะแตกต่างจากของเล่นชิ้นอื่นในช่วงอายุของเด็กวัย 18 เดือน ถึงแม้วิธีเล่นจะแตกต่างกันแต่ก็ยังสามารถเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งตรงกับพัฒนาการของเด็กวัยนี้นั่นเอง ซึ่งพัฒนาการด้านต่าง ๆ มีดังนี้

• การมองเห็น (Visual)

เด็ก ๆ ได้ฝึกการใช้สายตาในการจับคู่และต่อชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ฝึกเรียงลำดับ เรียงขนาดชิ้นส่วน เปรียบเทียบด้วยสายตาในขณะเล่น รวมถึงการมีสีสันต่าง ๆ ก็ช่วยให้สายตาได้เรียนรู้และคุ้นชินกับสีสันเหล่านั้นเช่นกัน

• การประสานสัมพันธ์ (Coordination)

การประสานสัมพันธ์การใช้มือและสายตาในการหยิบ จับชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ช่วยประสานสัมพันธ์การใช้มือและสายตามากยิ่งขึ้น รวมถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่ต้องใช้อวัยวะพร้อม ๆ กันด้วย

• การแก้ปัญหา (Problem Solving)

การเพิ่มความท้าทายให้กับของเล่น ช่วยให้เด็ก ๆ เล่นของเล่นได้ไม่เบื่อ การเพิ่มปัญหาหรือความยากให้กับของเล่นทำให้ช่วยสร้างให้เด็ก ๆ ชินกับวิธีคิดและกระบวนการแก้ไขปัญหาในขณะเล่นได้

• พัฒนาการด้านคณิตศาสตร์ (Mathematical)

รูปทรงต่าง ๆ ล้วนสำคัญในทางคณิตศาสตร์ การที่เด็ก ๆ ได้เรียนรู้และคุ้นชินจะช่วยให้เข้าใจและเสริมทักษะด้านคณิตศาสตร์ไปพร้อม ๆ กับการเล่นได้ด้วย

• ภาษาและการสื่อสาร (Language & Communication)

เด็ก ๆ ได้ใช้ภาษาสื่อสารในขณะเล่น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นต่อชิ้นส่วนตามปกติ หรือเป็นการเล่นเล่านิทาน เล่าเรื่อง ก็ช่วยเพิ่มทักษะและพัฒนาการสื่อสารและภาษาในขณะเล่นได้ ถึงแม้เด็กในวัยนี้จะชอบคุยคนเดียว ชอบเล่นคนเดียว ของเล่นชิ้นนี้ก็เสริมพัฒนาการด้านการใช้ภาษาและการสื่อสารได้เป็นอย่างดี 

• พัฒนาการด้านความจดจ่อ (Concentration)

กระบวนการต่อชิ้นส่วน การเล่นของเล่น ก็ช่วยให้เด็ก ๆ ได้โฟกัสกับการเล่นมากที่สุด ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ชินกับการสร้างสมาธิและพัฒนาสมาธิและความจดจ่อในขณะเล่นของเล่นโดยที่เด็ก ๆ ยังสนุกกับการเล่นโดยไม่รู้ตัว

เสริมทักษะด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ

ของเล่นเซตนี้จะโฟกัสที่การเรียนรู้ภาษา คำศัพท์ และการสื่อสารเป็นส่วนใหญ่ จึงเหมาะกับเด็กอายุ 2 ปี ขึ้นไป ที่โตพอที่จะเรียนรู้และพัฒนาทางด้านภาษาแล้ว รวมถึงการออกแบบที่สอดแทรกการใช้จินตนาการระหว่างการเล่นด้วย จึงทำให้ของเล่นชุดนี้สามารถเสริมทักษะด้านอื่นที่จำเป็นเพื่อเสริมพัฒนาการให้เหมาะสมกับวัยเช่นกัน

• ภาษาและการสื่อสาร (Language & Communication)

เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ภาษาและการสื่อสารจากการเล่นจับคู่ตัวอักษรกับการ์ดคำศัพท์ ซึ่งเป็นส่วนกระตุ้นให้ได้ใช้ภาษามากขึ้นและคุ้นชินกับคำศัพท์ที่ไม่เคยเจอได้เยอะขึ้นด้วย การเล่นของเล่นประเภทนี้จึงช่วยพัฒนาด้านภาษาและการสื่อสารได้ดี

• กล้ามเนื้อมัดเล็ก (Fine Motor)

ไม่ว่าจะหยิบ จับหรือวางตัวอักษรตรงกับการ์ดคำศัพท์ก็ช่วยให้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้ขยับ ได้ออกแรงมากขึ้น ช่วยให้เด็ก ๆ ใช้งานกล้ามเนื้อส่วนนี้มากขึ้นในระหว่างการเล่น 

• การประสานสัมพันธ์ (Coordination)

การที่ได้ใช้กล้ามเนื้อมือ สายตา หรือการออกเสียง รวมถึงการใช้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายไปพร้อม ๆ กัน ก็ช่วยให้การประสานสัมพันธ์ต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น อย่างการใช้กล้ามเนื้อมือหยิบตัวอักษรตรงกับการ์ดคำศัพท์ เป็นต้น

• การจินตนาการ (Imagination)

นอกจากจะได้ฝึกใช้จินตนาการในการต่อตัวอักษรให้ตรงกับรูปภาพบนการ์ดคำศัพท์แล้ว เด็ก ๆ จะยังได้ใช้จินตนาการไปกับการเล่นที่หลากหลาย อย่างการใช้การเล่นประกอบการเล่าเรื่อง เล่านิทาน ได้ด้วย

• การสัมผัส (Tactile)

เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ผิวสัมผัสผ่านการหยิบ จับทั้งตัวอักษร A-Z และการ์ดคำศัพท์ที่มีผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน ซึ่งมอบประสบการณ์การเรียนรู้ความแตกต่างได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามทั้งหมดล้วนเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการซึ่งมีวิธีการเล่นที่ต่างจากของเล่นชนิดอื่น การเลือกเกมจับคู่เป็นของเล่นให้กับเด็ก ๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจหากครอบครัวใดกำลังมองหาของเล่นที่เพิ่มความท้าทายและ เพิ่มความยากมากขึ้นแต่ยังคงเสริมพัฒนาการที่สมวัยกับเด็ก ๆ เกมจับคู่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เมื่อเทียบกับของเล่นเสริมพัฒนาการประเภทอื่นได้เลย