การผลิตของเล่นที่มีคุณภาพ วัตถุดิบคือหัวใจสำคัญ
การผลิตของเล่นที่มีคุณภาพ วัตถุดิบคือหัวใจสำคัญ
ไม้คุณภาพดีจากธรรมชาติ สู่ของเล่นที่สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน ภายใต้การบริหารงานของคุณสินชัย ลีสุรวณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเมียร์ วู้ด มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
การเรียนรู้ร่วมกันเพื่อการพัฒนาการทำงานในการจัดเตรียมไม้คุณภาพดีและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
บริษัท พรีเมียร์ วู้ด มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจโรงเลื่อยมานานกว่า 20 ปี ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพและความยั่งยืนในการผลิต ผ่านการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติของไม้ พร้อมทั้งการพัฒนาเครื่องจักรและกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุดและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของแปลนทอยส์ ที่ต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่าผ่านการเล่นที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การทำงานร่วมกันนี้ไม่เพียงแค่ช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตให้มีคุณภาพสูงสุด แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดในการดำเนินธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลา
บริษัทของเราได้ดำเนินกิจการโรงเลื่อยมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงก่อนปี 2540 โรงเลื่อยแรกของเราตั้งอยู่ห่างจากบ้านเกิดประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความมุ่งมั่นในการผลิตไม้คุณภาพ หลังจากดำเนินกิจการมาได้ 4-5 ปี เราก็มีโอกาสขยายโรงเลื่อยอีกแห่งที่ห่างจากที่ตั้งเดิมประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ในช่วงแรกที่เราเริ่มต้นกิจการโรงเลื่อย เราได้รับการสนับสนุนจาก BOI ซึ่งมีข้อกำหนดให้เราต้องได้รับมาตรฐาน ISO การดำเนินธุรกิจภายใต้การควบคุมของมาตรฐานนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้และปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพสูงและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า จากการเน้นเพียงเรื่องคุณภาพ เราได้ขยายแนวคิดมาสู่การเน้นความยั่งยืนของธุรกิจ โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้สินค้าของเรามีคุณภาพดีที่สุด ทำให้เรามั่นใจว่าเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและทำให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
การพัฒนาคุณภาพสินค้าและการนำความยั่งยืนมาใช้
การพัฒนาคุณภาพสินค้าของเราเริ่มต้นจากการเข้าใจธรรมชาติของไม้ยางพาราและการปรับปรุงกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม เช่น การแปรรูป การอัดน้ำยา และการอบแห้ง แม้กระบวนการเหล่านี้จะถือว่าเป็นเทคโนโลยีโบราณ แต่เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการศึกษารายละเอียดของแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่การตัดโค่นไม้ การตัดเป็นท่อน และการแปรรูป เพื่อให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพดีที่สุด เราได้ปรับแต่งโต๊ะเลื่อย ลับคมเลื่อย และพัฒนาเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อให้การผลิตเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ เราไม่เพียงแต่เน้นเรื่องคุณภาพสินค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจด้วย การเลือกซื้อไม้คุณภาพดีตั้งแต่เริ่มต้นทำให้ลูกค้าสามารถใช้ไม้ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องตัดทิ้ง และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการศึกษาและปรับปรุงวิธีการผลิตให้มีผลกระทบน้อยต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด
อายุของไม้ยางพาราที่เหมาะสมสำหรับการแปรรูป
ไม้ยางพาราสำหรับนำมาแปรรูปนั้น ยิ่งมีอายุมากก็ยิ่งดี เพราะไม้ที่มีอายุมากจะมีความแข็งแรงและคุณภาพสูงกว่า แต่หากไม้มีอายุเกิน 35 ปี อาจมีโอกาสที่โคนไม้เริ่มกลวง การดูแลไม้ยางพาราให้มีอายุยืนยาวต้องการการวางแผนและการจัดการที่ดี เช่น การกรีดยางในช่วงเวลาที่เหมาะสมและการดูแลเปลือกไม้ ถึงแม้ว่าไม้ยางพาราส่วนใหญ่ที่พบในตลาดจะมีอายุประมาณ 20 ปี แต่หากมีการดูแลอย่างเหมาะสมและมีการวางแผนที่ดี เราสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของไม้ยางพาราให้ยาวนานขึ้นได้ การโค่นไม้ยางพาราที่อายุน้อย เช่น 15 ปี ก็สามารถทำได้ แต่การปล่อยให้ไม้เติบโตจนถึงอายุที่มากขึ้นจะช่วยให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพสูงสุดและช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากไม้ยางพารา
‘ไม้ของแปลนทอยส์ต้องไม่ผ่านการอัดน้ำยา’ นี่คือโจทย์สำคัญ
การผลิตไม้ที่ไม่ผ่านการอัดน้ำยาตามโจทย์ที่แปลนทอยส์ให้มามีความท้าทายมาก เนื่องจากหากไม้ที่ผ่านการอบไม่ตรงตามมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นไม้โค้งหรือไม้ที่ไม่ได้ระดับ จะไม่สามารถนำไปใช้หรือจำหน่ายต่อได้ ต่างจากไม้ที่ผ่านการอัดน้ำยาซึ่งหากมีปัญหายังสามารถนำไปใช้ในบางกรณีได้
กระบวนการแปรรูปไม้ที่ไม่ผ่านการอัดน้ำยาจึงต้องการความละเอียดรอบคอบและการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด เราต้องคัดเลือกไม้ที่เสียออกจากกลุ่มปกติก่อนการแปรรูป และต้องวางแผนการผลิตอย่างรอบคอบเนื่องจากแปลนทอยส์ไม่ซื้อไม้ทุกขนาดเหมือนลูกค้าทั่วไป มีการเลือกซื้อเฉพาะขนาดที่ต้องการเท่านั้น การผลิตจึงต้องคำนึงถึงยีลด์ (yield) หรือสัดส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ได้จริงเพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด
การแปรรูปไม้สำหรับแปลนทอยส์เริ่มต้นจากการเลือกไม้ตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นต้องคัดแยกและจัดการเรียงไม้เพื่อเตรียมเข้าเตาอบ โดยต้องเลือกวิธีการอบที่ไม่ให้น้ำยาในเตารบกวนคุณภาพของไม้ เราต้องหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียและควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อไม้เสียก็ไม่สามารถใช้งานได้เลย ดังนั้นเราจึงต้องหลีกเลี่ยงการสูญเสียและความผิดพลาดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานของแปลนทอยส์
การจัดการไม้ที่เสียหรือใช้ไม่ได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การจัดการไม้ที่เสียหรือใช้ไม่ได้ในกระบวนการผลิตของเราแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน หากไม้ไม่โค้งมาก เรายังสามารถนำไปอัดน้ำยาและอบใหม่ได้ แม้ว่าจะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีโอกาสเกิดการสูญเสียได้ เนื่องจากการอบใหม่อาจทำให้ไม้เกิดการแตก สำหรับไม้ที่โค้งมากจนไม่สามารถใช้ได้ เราจะนำไม้เหล่านี้ไปเป็นเชื้อเพลิงในบอยเลอร์ (Boiler) ซึ่งใช้ในการให้พลังงานของบริษัท ทำให้เราสามารถใช้ไม้ที่เสียให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการนำไปผลิตพลังงานแทนการทิ้งเป็นขยะ
ผลกระทบจากการเปลี่ยนไปปลูกปาล์มน้ำมันต่อโรงเลื่อย
หากในอนาคตเกษตรกรหันไปปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น ปริมาณวัตถุดิบไม้ยางพาราจะลดลงและส่งผลต่อโรงเลื่อยอย่างแน่นอน เพราะการขาดแคลนอุปทาน (Supply) ของไม้ยางพาราจะส่งผลกระทบต่อทุกองค์กร อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการแข่งขันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการอยู่รอดของธุรกิจ หากเราทำธุรกิจและมีกำไรต่อเนื่อง เรายังสามารถแข่งขันในตลาดได้ แม้ว่าไม้ยางพาราจะมีราคาแพงขึ้น แต่ถ้าเราบริหารจัดการและทำกำไรได้ เราก็ยังสามารถดำเนินกิจการโรงเลื่อยต่อไปได้
การจัดการแหล่งที่มาของไม้และมาตรฐานความยั่งยืน
ในปัจจุบัน ลูกค้ามีความต้องการที่จะมั่นใจในแหล่งที่มาของไม้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืน เช่น FSC หรือ EUDR เรื่องนี้เป็นประเด็นที่โรงเลื่อยต่าง ๆ ได้ถกกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เนื่องจากระบบที่กำหนดโดย FSC นั้นมีความท้าทายในการปฏิบัติจริง แม้ว่าเราจะสามารถทำตามบางข้อกำหนดได้ แต่ยังมีประเด็นหลักที่ทำไม่ได้ เช่น การห้ามใช้รถแทรกเตอร์ในการตัดโค่นและการห้ามเผาไม้ที่เหลือ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ชาวสวนหลายรายไม่สามารถปฏิบัติตามได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทของเรายังคงมุ่งมั่นที่จะไม่ซื้อไม้จากเขตป่าสงวน และเน้นการซื้อไม้จากที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ชัดเจน การทำตามมาตรฐาน FSC จึงยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่เรายังคงให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของเราเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องของแหล่งที่มาของไม้
โครงการด้านความยั่งยืนและการพัฒนาชุมชน
บริษัทของเรามีการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและสนับสนุนชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 20-30 ปีที่ผ่านมา เราได้บริจาคทุนการศึกษาให้กับเด็กในชุมชนทุกปี เพื่อเป็นการสนับสนุนและให้กำลังใจเด็กที่ตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนดี นอกจากนี้ในการดำเนินงานในแปลงไม้ เราให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพแวดล้อม โดยพยายามไม่ให้เกิดการล้มไม้ที่ทำให้ถนนเสียหาย หรือก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น อุบัติเหตุจากการทำถนนเลอะในช่วงหน้าฝน
ในด้านการจ้างงาน เราให้ความสำคัญกับการจ้างงานคนในท้องถิ่น เน้นการพัฒนาแรงงานที่มีฝีมือและสามารถผลิตไม้คุณภาพดีได้ โดยการคัดเลือกคนงานที่มีทักษะและความสามารถในการเลื่อยไม้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง การให้โอกาสคนในชุมชนได้มีงานทำจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนและสร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของเรา
มุมมองการทำงานร่วมกับแปลนทอยส์
การทำงานร่วมกับแปลนทอยส์เป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทของเราได้พัฒนาสินค้าและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่เราไม่เคยผลิตไม้ที่ไม่ผ่านการอัดน้ำยา การทดลองผลิตในช่วงแรกมีความท้าทายอยู่บ้าง เนื่องจากต้องอบไม้ที่ไม่อัดน้ำยารวมกับไม้อัดน้ำยาในเตาเดียวกัน ทำให้ต้องหาวิธีการอบให้ได้มาตรฐาน โดยไม่ให้น้ำยาที่ใช้ในการอบไม้ไปถึงกัน
การทำงานร่วมกันนี้ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาวิธีการผลิตใหม่ ๆ เพื่อไม่ให้ไม้เสียหาย ดังนั้น การทดลองและปรับปรุงกระบวนการผลิตนี้เป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่ามากสำหรับการพัฒนาองค์กร เรามองว่าการเรียนรู้และการพัฒนาต่อเนื่องเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สูงสุดในการทำงานร่วมกับแปลนทอยส์ ทำให้เราสามารถพัฒนาสินค้าและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น